New Topics

ส้มกบหรือผักแว่น

กันยายน 19, 2563

 

ส้มกบหรือผักแว่น

พืชคลุมดินที่มีชื่อเรียกอื่นๆ ตามถ้องถิ่น เช่น สังส้ม (แพร่) , ผักแว่น (ภาคกลาง), ส้มดิน (แม่ฮ่องสอน) เป็นพืชขนาดเล็กขึ้นปกคลุมผิวดินเป็นกลุ่ม ลำต้นมีขนปกคลุม ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ เกิดจากจุดเดียวกันที่ปลายก้านใบ ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ปลายใบเว้ารูปรงน่ารักคล้ายใบโคลเวอร์ ดอกสีเหลือง ส้มกบมีอายุหลายปี ส่วนโคนดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ออกดอกตลอดทั้งปี ลำต้นเป็นไหลทอดยาวไปตามพื้นดินเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุยและชุ่มชื้น มีความสูง 2-3 นิ้ว  ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ เจริญเติบโตงอกงามได้ดีในช่วงหน้าฝน  สามารถนำมาปลูกไว้ตามซอกหินหรือระหว่างทางเท้าได้ โดยไม่ต้องดูแลตัดแต่ง ผักแว่นยังเป็นมีสรรพคุณทางยาเป็นสมุนไพร ช่วยรักษาแผลเปื่อย แผลที่เป็นหนอง นำใบสดมาต้มแก้ท้องเสีย และอื่นๆ

Creeping lady's sorrel-ส้มกบ

the-than.com

Creeping lady's sorrel-ส้มกบ

gardenersworld.com

ผักเบี้ยหนู หญ้าเม็ดแตง หรือบานเที่ยง

กันยายน 19, 2563

 ผักเบี้ยหนู

ผักเบี้ยหนู หญ้าเม็ดแตง หรือบานเที่ยง เป็นไม้ล้มลุกขึ้นคลุมทอดไปตามดิน ลำต้นและใบอวบน้ำ ใบเดี่ยวรูปใบรีปลายใบแหลมขอบเรียบ ขนาดยาวประมาณ 1 ซม. ดอกเป็นสีเหลืองมีกลีบดอกสี่กลีบขนาดดอกบานเต็มที่ไม่เกิน 1 ซม. ต้นและใบจิ๋วๆ ดูน่ารัก สามารถทนแดดทนแล้งได้ดี เมื่อโดนแดดแรง ๆ จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ๆ มีระบบรากสั้นทำให้ดึงออกเมื่อต้องการใช้พื้นที่ปลูกพืชอื่นทำได้ง่าย สามารถใช้ปลูกคลุมดินเพื่อควบคุมวัชพืชอื่นได้ จึงนิยมปลูกแทรกระหว่างต้นไม้ในสวนเนื่องจากเป็นไม้คลุมดินที่แผ่ทอดเลื้อย เมื่อเติบโตครอบคลุมเต็มพื้นที่แล้ว จะช่วยป้องกันไม่ให้วัชพืชหรือหญ้าชนิดอื่นเติบโตแทรกขึ้นมาได้เป็นอย่างดี และช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดิน ข้อดีอีกประการหนึ่งคือ ดูแลไม่มีระยะโทรม สามารถเติบโตได้ทั้งปี ทนต่อการเหยียบย่ำพอสมควรจึงปลูกแทนหญ้าได้ดี

minnesotawildflowers.info

Common Purslane, Little Hogweed (Portulaca oleracea)

florafinder.com



ต้น “เพชรสังฆาต” สมุนไพรดีมีประโยชน์ แต่ก็ต้องรู้วิธีใช้ ไม่งั้นอันตราย

กันยายน 19, 2563

 



วัยรุ่นหนุ่มสาวสมัยนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อของ เพชรสังฆาต สมุนไพรไทยที่มีลักษณะเป็นเถาอ่อนสีเขียวเป็นเหลี่ยมข้อต่อกันตัวนี้กันสักเท่าไร เนื่องด้วยสรรพคุณของสมุนไพรตัวนี้ไม่ได้รักษาโรคที่เกิดขึ้นทั่วไปอย่าง โรคหวัด ความดันโลหิต โรคหัวใจ ฯลฯ แต่เพชรสังฆาตเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร และโรคที่เกี่ยวกับกระดูกได้ โดยสามารถนำส่วนของใบ เถา และน้ำคั้นจากต้นมารักษาอาการต่างๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเถาอ่อน ที่สามารถคั้นเอาน้ำมาดื่มแก้ท้องอืด โรคเลือดออกตามไรฟัน แก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ และสามารถนำใบ กับรากมาพอกในส่วนที่พบกระดูกหักได้อีกด้วย

สำหรับสรรพคุณในการรักษาโรคริดสีดวงทวาร พญ.ดวงรัตน์ เชี่ยวชาญวิทย์ และคณะ ได้ประเมินประสิทธิภาพของสมุนไพรเพชรสังฆาตกับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวารจำนวน 121 คน เปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบันอย่างดาฟลอน (Daflon) โดยผลการวิจัยพบว่าค่าเฉลี่ยคะแนนของการประเมินผลของสมุนไพรเพชรสังฆาตกับยาดาฟลอนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และที่สำคัญยังพบว่าค่าใช้จ่ายของยาแคปซูลเพชรสังฆาตถูกกว่ายาดาฟลอนถึง 20 เท่าอีกด้วย ผลการวิจัยนี้จึงสรุปได้ว่าแคปซูลเพชรสังฆาตสามารถใช้ทดแทนยาดาฟลอนในการรักษาโรคริดสีดวงทวารได้เป็นอย่างดี

สำหรับสรรพคุณเรื่องกระดูก ในตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม ของกองประกอบโรคศิลปะ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เพชรสังฆาต มีสรรพคุณ แก้กระดูกแตก หัก ซ้น ขับลมในลำไส้ แก้ริดสีดวงทวารหนัก ส่วนหมอพื้นบ้านนั้นใช้เถาตำละเอียดเป็นยาพอกบริเวณกระดูกหักช่วยลดอาการบวม อักเสบได้ น้ำคั้นจากเถาดื่มแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้โลหิตระดูสตรีไม่ปกติ รักษาริดสีดวงทวารที่เริ่มเป็นระยะแรก ผลการทดลองใช้เถาเพชรสังฆาตในสตรีวัยทองซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกระดูกพรุน พบว่าช่วยเพิ่มมวลกระดูกและรักษากระดูกแตก กระดูกหักได้ในขนาดรับประทาน ครั้งละ 2 แคปซูล (น้ำหนักแคปซูลละ 250 มิลลิกรัม) วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร

อย่างไรก็ตาม เพชรสังฆาต ยังมีข้อควรระวังที่สำคัญมากอยู่ คือวิธีการรับประทาน นพ. พิรัตน์ โลกาพัฒนา หรือหมอแมว แพทย์แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลยันฮี อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า เพชรสังฆาต จัดว่าเป็นพืชที่มีผลึกของแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งเป็นผลึกรูปเข็มจำนวนมาก หากเราเผลอเคี้ยวส่วนใดส่วนหนึ่งของเพชรสังฆาต ไม่ว่าจะเป็นใบ เถา หรือรากเข้าไปในปาก ผลึกที่ออกมาจะทิ่มชำแรกเข้าไปในเนื้อเยื่อของปาก และลำคอ ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน หรือบวมได้

ดังนั้น วิธีการทางเพชรสังฆาต คือการทานในรูปแบบของเม็ดแคปซูล ที่จะทำให้เพชรสังฆาตไม่สัมผัสกับอวัยวะภายในปากของเราโดยตรง หากอยากทานสดๆ ควรทานโดยกลืนลงคอไป ไม่ต้องเคี้ยว หากอยากกลืนง่ายๆ ให้สอดไส้ผลไม้ผิวลื่นอย่าง กล้วย แล้วค่อนกลืนลงไปพร้อมกัน เป็นต้น

อนึ่ง นพ. พิรัตน์ โลกาพัฒนา ยังกล่าวเสริมอีกว่า อาการปาก และคอบวมอักเสบจากการทานพืชที่มีผลึกออกซาเลต ยังสามารถพบได้ในพืชอีกหลายชนิด เช่น บอนสี โหรา (มีรูปร่างคล้ายบอน) เป็นต้น ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติ แต่ก็ควรศึกษาวิธีทาน และสรรพคุณของสมุนไพรนั้นๆ รวมทั้งปริมาณในการทานอย่างละเอียดก่อนทาน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายตั้งแต่คำแรกที่ทานได้

หากต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทานสมุนไพรเพื่อรักษาโรค สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขที่ 88/23 หมู่ 4 ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000  โทรศัพท์ : (+66) 0-2591-7007 หรือที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

#แครนเบอร์รี่ (Cranberries) เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีผลเล็ก ๆ สีแดงสด

กันยายน 17, 2563

 #แครนเบอร์รี่ (Cranberries) เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีผลเล็ก ๆ สีแดงสด รสชาติหวานอมเปรี้ยว มักจะปลูกในแถบประเทศอเมริกา และแคนาดา แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ทานเจ้าผลไม้นี้แบบสด ๆ กันสักเท่าไหร่ มักจะได้ทานแครนเบอร์รี่ในรูปแบบที่ผสมมากับอาหารชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำผลไม้ ซอส แยม โยเกิร์ต รวมทั้งแครนเบอร์รี่อบแห้ง

เราไปดูกันเถอะว่าในแครนเบอร์รี่สดๆจะให้สารอาหารอย่างไรบ้าง


ภาพ และ ข้อมูลดี ๆ จาก https://www.facebook.com/OuayUn/ 


หญ้ารัดเขียด Fimbristylis milliacea

กันยายน 09, 2563

 



หญ้ารัดเขียด (อังกฤษLesser Fimbristylis ชื่อวิทยาศาสตร์Fimbristylis milliacea) เป็นพืชวงศ์กก ฤดูเดียว ขึ้นเป็นกอ สูง 25-50 เซนติเมตร ใบติดที่โคนต้น มีปลอกหุ้มยาว 2-4 เซนติเมตร ดอกช่อแบบซี่ร่ม มีช่อดอกย่อย 50 - 100 ช่อ มีดอกย่อยจำนวนมาก ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ชอบพื้นที่เปียกชื้น พบในท้องนา กระจายพันธุ์ได้ทั่วประเทศไทย

ตะแบก Lagerstroemia spp. (Lythraceae), Queen’s Flower.

กันยายน 09, 2563

 ตะแบก

Lagerstroemia spp. (Lythraceae)Queen’s Flower.



ตะแบก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ เนื้อไม้แข็ง ลำต้นมีเปลือกเรียบ สีขาวเป็นมัน ต้นแก่ผิวร่อนคล้ายต้นฝรั่ง ลำต้นสูงแตกกิ่งก้านตอนบน ใบโตปลายใบแหลมคล้ายใบลั่นทม ดอกมีสีสันแตกต่างกันตามชนิดเช่น ขาว ชมพู ม่วง เวลาออกดอกจะทิ้งใบ มีแต่ดอกบานสะพรั่งสวยงามมาก ผลออกเป็นช่อลูกคล้ายหมากดิบ

ตะแบก มีถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อน เช่น ไทย มาเลเซีย ศรีลังกา อินเดีย ในเมืองไทยก็มีตะแบกหลายชนิด เช่น L.tomentosa ดอกออกเป็นช่อเล็ก ๆ สีขาว, L.flosreginae ดอกสีม่วงแก่ ต้นนี้เรียกว่า Queen’s Flower หรือ Pride of India, L.balansae ตะแบกกรียบ, L.calyculata ตะแบกแดง, L.collinsae ตะแบกใบเล็ก, L.duperreana ตะแบกเปลือกบาง, L.siamica ตะแบกนา, L.ovlifolia ตะแบกดง

ตะแบกชอบขึ้นอยู่ทั่วไปตามป่าราบ เป็นไม้กลางแจ้ง มักปลูกเป็นไม้ประดับถนน การขยายพันธุ์ใช้วิธีเพาะเมล็ด

ตะแบกมักปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านที่ให้ดอกสวยงามตระการตาเมื่อเวลาบานเต็มต้นและทิ้งใบ แต่ตะแบกให้ดอกเพียงปีละครั้ง นอกจากบางชนิดที่มีออกปีละสองครั้ง นอกจากนี้ไม้ตะแบกยังใช้ในการก่อสร้างได้ดีด้วย



คริสต์มาสหนู Euphorbia leucocephala (Rosa pomone)

กันยายน 09, 2563

คริสต์มาสหนู

Euphorbia leucocephala (Rosa pomone)



 คริสต์มาสหนู เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มักปลูกในกระถางสูงประมาณ 6 ฟุต ลำต้นและใบตลอดจนลักษณะอื่น ๆ คล้ายคริสต์มาสธรรมดาแทบทุกอย่าง นอกจากดอก กลีบดอกหรือใบประดับที่อยู่ในช่อดอกหนึ่ง ๆ ไม่ใหญ่ แต่เป็นใบเล็ก ๆ บาง ๆ สีเหลืองอ่อนอมขาว

คริสต์มาสหนู นี้เป็นพันธุ์ที่ผสมขึ้นใหม่และเพิ่งเข้ามาในเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้ การแพร่พันธุ์ในเมืองไทยก็ยังมีไม่มากนัก

คริสต์มาสหนูออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งใกล้เคียงกับเทศกาลคริสต์มาส เช่นเดียวคริสต์มาสธรรมดาเหมือนกัน และเนื่องจากคริสต์มาสหนูให้ดอกที่สวยงามสะดุดตาแปลกกว่าคริสต์มาสธรรมดา จึงนิยมใช้เป็นไม้ประดับดูเล่นที่ให้ความพิศวงแก่ผู้ที่ยังไม่เคยพบเห็น ดอกของคริสต์มาสหนูก็อยู่ทนทานนานวัน

คริสต์มาสหนู ที่ปลูกในกระถางควรใช้ดินร่วนซุย ผสมทรายหยาบใบไม้ผุ และปุ๋ยคอกเช่นเดียวกับปลูกคริสต์มาสธรรมดา

การขยายพันธุ์ใช้วิธีตัดกิ่งปักชำ

 
Copyright © greentree9. Designed by OddThemes & VineThemes